top of page
QICTechFACTcheckLoGoWhite-2021.jpg

ข้อเสนอแนะเชิงวิพากษ์ต่อ “แผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๒” | รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม| #ThaiTelecom150 #IYQ2025 #ThaiYQ2025 |

  • รูปภาพนักเขียน: K Sripimanwat
    K Sripimanwat
  • 2 วันที่ผ่านมา
  • ยาว 2 นาที

“เรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพื่ออนาคตที่ผิดพลาดน้อยลง” - mini-lecture บทเรียนวิเคราะห์จากประสบการณ์ รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม (๑๔ สค. &  กย. ๒๕๖๘)


ree

บทนำ

การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นแนวหน้า (frontier research) โดยเฉพาะ เทคโนโลยีควอนตัม ได้ถูกกำหนดเป็นวาระแห่งชาติผ่าน “แผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๒” อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่ย่อมต้องเผชิญกับบทเรียนซ้ำจากอดีตของวงการวิทยาศาสตร์ไทย บทเชิงวิพากษ์นี้รวบรวมข้อเสนอแนะของ รองศาสตราจารย์บุญรักษา สุนทรธรรม อดีตผู้อำนวยการผู้ก่อตั้งสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการ เพื่อเป็นแนวทางในการ “ปรับปรุง แก้ไขยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนงาน” ดังกล่าว


๑) ที่มา ที่ไป นโยบาย พื้นฐานภาพรวมวิถีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้าน วท.ไทย


การริเริ่มจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีจุดเริ่มต้นมาจากความพยายามในการกำหนดทิศทาง Frontier Research เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศที่สำคัญหลายประการ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นมา ได้มีการจัดประชุมระดมความคิดจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประเทศไทยสามารถ “ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง” และบรรลุเป้าหมายของ ประเทศไทย ๔.๐ ที่เน้นการสร้างนวัตกรรมและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้


ree

แผนงานดังกล่าวครอบคลุมหลายสาขา ซึ่งเทคโนโลยีควอนตัมถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย การจัดทำแผนจึงมีพื้นฐานมาจากความต้องการในระดับนโยบายที่ต้องการมองหาเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่สามารถขับเคลื่อนประเทศได้


ขณะที่การพัฒนาวิทยาศาสตร์ในประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น จีน เกาหลีใต้ หรือปากีสถาน (นิวเคลียร์) ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทรัพยากรหรือกำลังคนเป็นหลักเท่านั้น แต่เกิดจากการมี “นโยบาย” ที่ชัดเจนและมุ่งมั่น ซึ่งในบริบทของควอนตัมเทคโนโลยีนี้ถือเป็น “โอกาส” ในการพัฒนาที่สำคัญยิ่งต่ออนาคตได้เช่นกัน


๒) พื้นฐานวิธีการทำแผนยุทธศาสตร์ การปฏิบัติและการประเมินผลทั่ว ๆ ไป


วิธีการทำแผนยุทธศาสตร์ที่ดีและสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมได้นั้น จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการที่เป็นระบบและมีกลไกการติดตามประเมินผลที่เข้มแข็ง (Evaluation and Follow-up System)


เนื่องจากแผนที่นำทางฯ ฉบับนี้มีระยะเวลาดำเนินการ ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๒) เมื่อถึงช่วงครึ่งแผน (พ.ศ. ๒๕๖๘) รศ.บุญรักษา เสนอให้มีการ “ทบทวนครึ่งแผน” (Half Plan Review) อย่างจริงจัง เพื่อประเมินว่าผลลัพธ์ (Outcome) ผลผลิต (Output) และผลกระทบ (Impact) ที่เกิดขึ้นนั้น บรรลุเป้าหมายที่วางไว้มากน้อยเพียงใด การทบทวนนี้จะนำไปสู่กระบวนการที่สำคัญที่สุดคือ “Gap Analysis”

“จะต้องมีการวิเคราะห์แก๊บ (Gap ช่องว่าง) วิเคราะห์ช่องว่างว่าทำไมบางเรื่องยังทำไม่ได้เป็นไปตามแผน แต่บางเรื่องนี้เป็นไปตามแผน...เสร็จแล้วเราก็คงจะต้องเสนอในเรื่องของการปิด Gap”

นอกจากนี้ แผนงานที่ดียังควรมีการทบทวนบ่อยกว่าครึ่งแผน โดย รศ.บุญรักษา เสนอว่า “น่าจะมีการทบทวนแผนถ้าเป็นรายปีได้นี่จะดีมาก” เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายสามารถปรับตัวและแก้ไขให้บรรลุเป้าหมายระยะยาวได้อย่างชัดเจน และเมื่อแผนสิ้นสุดลงต้องมีแนวทางที่ชัดเจนในการนำผลงานวิจัยที่ได้ “ไปสู่เชิงพาณิชย์ได้ในอนาคต”


๓) ข้อสังเกตเด่นชัดต่อแผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๒”


ข้อสังเกตที่โดดเด่นและเป็นจุดอ่อนที่อาจซ้ำรอยกับแผนพัฒนาวิทยาศาสตร์ในอดีต คือ การที่แผนยุทธศาสตร์สำคัญเช่นนี้อาจขาดกระบวนการ ประชาพิจารณ์ (Public Hearing) และการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) อย่างรอบด้าน


รศ.บุญรักษาชี้ว่า หลังจากทบทวนครึ่งแผนแล้ว ควรมีการไป “พูดคุยกันกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานหรือภาคส่วนที่จะได้รับประโยชน์จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีควอนตัม เช่น ทางการแพทย์ การเกษตร วิศวกรรม ฯ 


การขาดการเชื่อมโยงกับภาคส่วนผู้ใช้งานจริงนี้ อาจทำให้ผลงานวิจัยด้านควอนตัมกลายเป็นเพียงงานวิจัยเชิงทฤษฎีที่จับต้องได้ยากและไม่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าเทคโนโลยีควอนตัมสากลครอบคลุม ๓ แกนหลัก คือ การสื่อสาร (Communications) การคำนวณ (Computing) และการตรวจวัด (Sensing) ซึ่งแต่ละด้านล้วนมีผู้ใช้งานและหน่วยงานกำกับดูแลที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน


๔) การศึกษา “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ?” กรณี lesson learn อดีต 


บทเรียนสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานควอนตัม คือ การที่ประเทศไทยเคยมีนโยบายลงทุนในเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำหรือการสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืน


ตัวอย่างโครงการในอดีตที่ใช้ “งบประมาณกันค่อนข้างเยอะ” แต่ล้มลุกคลุกคลานในการไปถึงเป้าหมายแล้วจางหายไป เช่น โครงการ Microelectronics, Hologram, Nano Technology, Hard Disk, โทรศัพท์ 3G, อากาศยานไร้คนขับ (UAV) เป็นต้น


อย่างไรก็ตาม รศ.บุญรักษา ไม่ได้มองว่าความล้มเหลวในอดีตเกิดจากความผิดพลาดของตัวนักวิทยาศาสตร์

“… ผมเชื่อว่าในความรู้ความเข้าใจของนักวิทยาศาสตร์ทุกท่านได้ใช้ความรู้ความสามารถเป็นอย่างดี เพียงแต่ระบบในการบริหารจัดการเพื่อที่จะให้มันบรรลุเป้าหมายเนี่ยมันอาจจะยังไม่มีความชัดเจน”

และนั่นอาจเป็น “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” ที่ต้องระวังต่อกรณีเทคโนโลยีควอนตัมที่กำลังเดินทางอยู่ ความพยายามของบุคลากรนั้นอาจเต็มที่แต่หากความล้มเหลวเกิดจาก “ระบบในการบริหารจัดการ” ที่ไม่ชัดเจน ขาดการติดตาม และขาดความยั่งยืน จะเป็นบทเรียนที่เกิดซ้ำ 


ree

ขณะที่ในสังคมทั่วไปยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึง “วัฒนธรรมภาพลักษณ์ รางวัลและการสรรเสริญตนเอง” ในวงการวิทยาศาสตร์ไทย ซึ่งเน้น “เวทีพิธีกรรม” มากกว่าการสร้างผลงานที่จับต้องได้จริง หากวัฒนธรรมเช่นนี้มาบรรจบกับความ “ขลัง” ของคำว่า “ควอนตัม” ก็อาจทำให้เกิดการใช้จ่ายงบประมาณไปกับการ “สร้างภาพ สร้างชื่อเสียง” และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่มิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างแท้จริง คล้ายกับกรณีอื่น ๆ ในอดีตได้ 


๕) สิ่งที่ขาด สิ่งที่อาจมีข้อผิดพลาด และแนวทางแก้ไขต่อ “แผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๒”


จากข้อสังเกตข้างต้น สิ่งที่ยังขาดหายและแนวทางแก้ไขต่อแผนที่นำทางฯ สามารถสรุปได้ดังนี้:


(สิ่งที่ขาด/ข้อผิดพลาด vs แนวทางแก้ไข)


๐ การรวมกลุ่มวิจัย (Grouping)

“รวมกลุ่มกันที่มีความชัดเจน” ของนักวิจัยในสาขาหลักของควอนตัมสากล ได้แก่ Quantum Computer, Quantum Sensor และ Quantum Communications


๐ ความโปร่งใสและธรรมาภิบาล

กระบวนการคัดเลือกนักวิจัย/นักวิชาการมาทำงานในโครงการสำคัญต้องมี “ความชัดเจน มีความโปร่งใส” เพื่อป้องกันปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน


๐ การบริหารความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์

ลดการใช้จ่ายงบประมาณไปกับการ “โฆษณาประชาสัมพันธ์และจัดอีเว้นท์” ที่เน้นสร้างภาพ ควรเปลี่ยนเป็นการ “รวบรวมผลงานวิจัย” ที่เป็นประโยชน์และสื่อสารคุณค่าแท้จริง


๐ การสื่อสารต่อสาธารณะ

ต้องสร้างความเข้าใจให้กับทุกช่วงวัย (Baby Boomer ถึง Gen Alpha/Beta) โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและเชื่อมโยงกับ Lifestyle และแนวทางการพัฒนาในเชิงบวก


๖) ของฝากแด่ผู้บริหาร วท.ไทย นักวิจัยนโยบาย และนักวิจัยรุ่นใหม่


รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ได้สรุปบทเรียนและฝากข้อคิดอันล้ำค่าแก่บุคลากรในวงการวิทยาศาสตร์ไทย ๓ กลุ่มหลัก


๑. สำหรับผู้บริหารและนักวิจัยนโยบาย

แก่นแท้ของการบริหารจัดการคือการสร้าง “ระบบ” ที่สมบูรณ์แบบเพื่อควบคุมและติดตามผล

“จะต้องวางระบบ มีการประเมิน มีการติดตามผลแล้วก็ให้เห็นว่าในการพัฒนาที่เราวางเป้าหมายมันถึงตรงไหนแล้ว มีการทำ Gap Analysis ที่มีความชัดเจน”

ผู้บริหารต้องกล้าตัดสินใจที่จะทบทวนแผนอย่างสม่ำเสมอ (รายปี) เพื่อปรับปรุงตัวชี้วัด และต้องผลักดันให้ผลงานวิจัยสามารถ “ยืนด้วยตนเอง” ด้วยการนำไปสู่เชิงพาณิชย์ในที่สุด ไม่ใช่แค่เป็นโครงการที่ขึ้นอยู่กับงบประมาณภาครัฐไปตลอด


๒. สำหรับนักวิจัยรุ่นใหม่

เน้นย้ำถึงความสำคัญของ "ทักษะการคิด" (Thinking Skills) ซึ่งสำคัญกว่า "คอนเทนต์" หรือเนื้อหาวิชาการเฉพาะด้าน


ree

“คอนเทนต์ยังไม่สำคัญเท่ากับทักษะที่ได้จากการอบรมเขา ... Positive Thinking ก็ได้ Critical Thinking ก็ได้หรือ Problem Solving เราจะแก้ปัญหาได้”


ในการทำงานที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายเฉกเช่น “อุกกาบาต ดาวหาง แสงรบกวน” ของวงการดาราศาสตร์ นักวิจัยจำต้องมี “ความคิดบวก” และความมุ่งมั่น เพราะ “ปัญหาทุกอย่างผมบอกได้เลยมันมี Time of Summer” (มีทางออกเสมอ)


บทสรุป

แผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย คือความพยายามครั้งสำคัญในการก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีขั้นสูง แต่การจะหลีกหนีจาก “วิทย์โศกนาฏกรรมซ้ำอดีต” ได้นั้น ผู้บริหารและนักวิจัยไทยต้องเปลี่ยนจาก "วัฒนธรรมภาพลักษณ์" ไปสู่ "วัฒนธรรมการบริหารจัดการ" โดยยึดหลักความโปร่งใส การประเมินผลอย่างเข้มข้น และการเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ความผิดพลาดในอดีต เพื่อวางรากฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ยั่งยืนให้แก่ลูกหลานในอนาคต


(Mini-Lecture 2025 ณ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯ เชียงใหม่: ๑๔ สค. & สภาวิจัยแห่งชาติ กทม: ๑ กย.)

-- IEEE ComSoc & QuantumIT Thailand


(coming soon -- วีดีโอ 🔔 ⏰)
(coming soon -- วีดีโอ 🔔 )
ree

โครงการหนึ่งร้อยปีควอนตัมโลก ครึ่งศตวรรษควอนตัมไทย

100th World & 50th Thai Quantum S&T Anniversary

(เวปหลักโครงการ - Officiall Web)

(รายละเอียดและกิจกรรม - Updated activities)

ree

The Sesquicentennial of Thai Telecommunications

(เวปหลักโครงการ - Main Web)

(รายละเอียดและกิจกรรม - Updated activities)


"เรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพื่ออนาคตที่ผิดพลาดน้อยลง

IEEE ComSoc Oral History -- สนับสนุนโดย 

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) 

หน่วยงานหลัก (Organizer)
ree

และภาควิชาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


หมายเหตุ:

ร่วมเสนอแนะ สนับสนุน ประสานกิจกรรมได้ที่

Alliance:


Disclaimer:

#ThaiTelecom150 & IYQ #ThaiYQ2025 - a public serving project by volunteers 

no conflict of interest & none of personal agenda involved

 

Welcome volunteers !

ชุดคอลัมน์ 'เตือนใจควอนตัมไทย'

“เรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพื่ออนาคตที่ผิดพลาดน้อยลง”

ความคิดเห็น


FEATURED POSTS

FOLLOW US

  • Facebook Long Shadow

 

DROP US A LINE 

Your details were sent successfully!

  • Facebook page

Disclaimer: Science Web  (ดำเนินงานโดยอาสาสมัครเพื่อสาธารณะ) -- We are all volunteers !

เวปวิชาการนี้เป็นศูนย์รวมกิจกรรมไอทีสาขาใหม่บนพื้นฐานวิชาฟิสิกส์แขนงกลศาสตร์ควอนตัม (Quantum Mechanics)

มิได้เกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ ความเชื่อ และการสร้างภาพลักษณ์ซ้อนเร้นบุคคลหรือองค์กรใดที่นำชื่อควอนตัมไปใช้

อีกทั้งนโยบายควอนตัมเกินจริงและการพ่วงขายเทคโนโลยีไอทีควอนตัมที่ระบาดเข้าสู่ประเทศไทย [1] [2] 

หากเพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมอุดมปัญญาไทยด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

About Us - Contact: ++02 5647000  (อยู่ระหว่างรอหมายเลข สนง.ใหม่)   Email: thailand_chapter@comsoc.org  

UNESCO-IDL
OQC

Q-Ti - Q-Thai.org - Quantum-Thai.org
Thai Quantum Information Forum

since 2014 © copyright 

Thanks for submitting !

  • Facebook page
bottom of page