top of page
QICTechFACTcheckLoGoWhite-2021.jpg

“1,500 วัน สานฝันควอนตัมไทย” | Q-Thai Forum | นับถอยหลังแผนที่นำทางควอนตัมไทย ฤา ถึงจุดหมาย ? | #IYQ2025 #ThaiYQ2025 | #ThaiTelecom150 | 15 พ.ย. 2568 |

  • รูปภาพนักเขียน: Q-Thai Admin
    Q-Thai Admin
  • 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
  • ยาว 3 นาที
(วีดีโอ - บรรยาย)

เนื่องในโอกาสที่ ปี ค.ศ. 2025 นี้ องค์การ UNESCO ประกาศให้เป็นปีสากลแห่งวิทยาการควอนตัม หรือ International Year of. Quantum Science and Technology - IYQ2025 ซึ่งเป็นปีบรรจบครบรอบ “หนึ่งร้อยปีควอนตัมโลก ครึ่งศตวรรษควอนตัมไทย” สมาคม IEEE Thailand section ประเทศไทย โดยสาขาไอทีควอนตัม มีความยินดีนำเสนอเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องยุทธศาสตร์สาขาหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของประเทศที่ได้เดินตามทิศทางของแผนที่ทางมาเกินระยะครึ่งทางแล้วในปีนี้ โดยขอมอบความเห็นและข้อเสนอแนะพร้อมข้อมูลที่ได้สำรวจจัดทำการสื่อสารวิทยาศาสตร์สู่สังคมไทยมาโดยตลอดสองทศววรษที่ผ่านมา เพื่อสานฝันควอนตัมไทยกับเวลาที่เหลือบนเส้นทางแผนที่นำทางฯ ดังนี้


ความเห็นและข้อเสนอแนะการปรับปรุง แก้ไขยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนงานใน ‘แผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๒’
ความเห็นและข้อเสนอแนะการปรับปรุง แก้ไขยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนงานใน ‘แผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๒’

“กำเนิดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ 24 มีนาคม 2522” - ครึ่งศตวรรษวิทยาศาสตร์ไทย

ย้อนเวลาเรื่องราวการเดินทางของวิทยาศาสตร์ไทยตั้งแต่สมัยที่มีการวางรากฐานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมใน พ.ศ. 2504 (เริ่มต้นยุคการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยอย่างเป็นระบบภายใต้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2504-2509)) ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยได้มีการร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลและหน่วยงานด้านนโยบายต่าง ๆ  พร้อมกับผู้รู้มากฝีมือเพื่อหาทางแก้ปัญหาใหญ่ของชาติมาโดยตลอด ซึ่งหนึ่งในผลงานที่น่าสนใจนำมาเสนอกันในลำดับต่อจากนี้ไปคือ แผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย พ.ศ. 2563-2572 ซึ่งเปรียบเสมือนแผนผังที่นำประเทศไทยเดินทางไปสู่ยุคใหม่ด้วยศักยภาพของคำว่า “ควอนตัม” … ซึ่งควอนตัมคำนี้คือวิทยาการที่มีอายุครบหนึ่งศตวรรษแล้ว ดังที่องค์การ UNESCO กำลังเฉลิมฉลองด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก แผนที่ฯ ดังกล่าวนี้จะพาประเทศไทยก้าวไปถึงฝั่งฝันได้อย่างไร ขอเชิญชวนร่วมเดินทางไปด้วยกันต่อจากนี้


ree

“พื้นฐานทั่วไปของการทำแผนยุทธศาสตร์”

ที่ผ่านมา การกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย มักเริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ของผู้นำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นที่มีพลังในการขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว และเป็นภูมิปัญญาที่ได้ตกทอดมา ซึ่งสิ่งนี้เป็นโอกาสอันดีที่คนรุ่นหลังจะนำมาต่อยอดและพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยนำประสบการณ์และความเข้าใจจากทุกฝ่ายมาหลอมรวมกัน 


สำหรับการทำแผนยุทธศาสตร์ จากการสำรวจพบว่าส่วนใหญ่เริ่มมาจากระดับนโยบาย สถานการณ์รอบบ้านการเมือง และกระแสสังคมโลก ต่อ ๆ มาได้นำพาไปสู่การประกาศเป้าหมายของฝ่ายปกครอง เช่น การเป็นผู้นำในภูมิภาค การตอบสนองต่อสถานการณ์สังคมโลก เป็นต้น จากนั้นจึงเกิดการวางแผนงานและงบประมาณ การจัดการอื่น ๆ แล้วประกาศใช้แผนที่นำทางหรือที่เรียกว่า “Roadmap” พร้อมโหมโรงประชาสัมพันธ์สู่สาธารณะ โดยพื้นฐานทั่วไป การเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ทั่วโลกต้องอาศัยทุกฝ่าย ทั้งรัฐ เอกชน และนักวิชาการจับมือกันทำงาน และที่ขาดไม่ได้คือการประเมินความก้าวหน้าและปรับปรุงตามคำแนะนำจากผู้ร่วมทาง หากเดินทางด้วยความรอบคอบเช่นนี้ แผนยุทธศาสตร์แผนที่นำทางจักเป็นเส้นทางที่ทำให้การขับเคลื่อนงานใด ๆ เป็นไปได้อย่างมั่นคง


ree

“ศึกษาความพยายามในอดีต  … ครึ่งศตวรรษ”

สำหรับประเทศไทยที่ผ่านมาเคยมีโครงการใหญ่ภาพสวยโครงการเด่น เช่น ภาพสามมิติงดงามนามฮอโลแกรม ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ นาโนเทคโนโลยี หรือฮาร์ดดิสก์และโครงการที่ใช้งบประมาณสูงอื่น ๆ อีกมาก … ทั้งหมดเริ่มต้นด้วยความหวังตั้งใจที่ดี โดยหลายงานยังดำเนินการอยู่หรือกลายเป็นเพียงความทรงจำไปแล้วก็ตาม บทเรียนอดีตเหล่านี้ชวนให้คิดถึงสัจจธรรมความจริงแท้ที่มีอยู่บนสองด้านของเหรียญ ทั้งด้านที่ “อยากจำ” และด้านที่ “อยากลืม” …


โดยเฉพาะด้านที่เกิดความรู้สึกไม่อยากย้อนกลับไปเห็นเส้นทางเก่า ด้านที่ไม่อยากรับรู้ร่องรอยเดิมหรือแม้เพียงจะนึกถึงอีกด้านนั้น … แต่กระนั้น ลองกลับมาทบทวนชวนให้มองกันลึก ๆ กับเหรียญด้านที่คว่ำไว้นี้โดยเฉพาะ เพราะประเทศไทยมีโอกาสใหม่ที่จะสร้างเรื่องราวที่แตกต่างหรือดีขึ้นกว่าที่เคยเกิดขึ้นได้ หากสร้างความร่วมมือกันได้จริงจังตั้งแต่วันนี้


ree

วิทยาการหัวข้อร่วมสมัยที่ผ่านมาหรือกำลังดำเนินอยู่มากมายเหล่านั้นเป็นบทเรียนสำคัญที่ทักเตือนกันเองได้ว่า การเปลี่ยนผ่านจากแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ไปสู่การปฏิบัติที่สร้างผลลัพธ์นั้นต้องอาศัยความเข้าใจในบริบทและกลไกการทำงานอย่างรอบด้าน จึงควรได้นำบทเรียนทุกด้านมาเป็นเครื่องนำทาง เพื่อให้การพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมที่กำลังจะไปพิจารณากันในหัวข้อต่อจากนี้นั้น ได้ก้าวไปอย่างมั่นคงและสร้างสรรค์ ซึ่งอาจเกริ่นตั้งแต่ต้น ณ ที่นี่ได้ว่า

“ประวัติศาสตร์วงการวิทยาศาสตร์ไทยซ้ำรอยเดิมมาหลายครั้งแล้วในอดีตที่ผ่านมา”

นั่นเอง …


“แผนที่นำทางอันเป็นที่กล่าวขาน”

ต่อเนื่องมากับนโยบายที่ชื่อว่า “ยุทธศาสตร์การวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research)” ชื่อที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่ก่อนช่วง COVID19 โดยนโยบายนี้ ต่อมาได้ให้กำเนิด “แผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย พ.ศ.2563 – 2572”


ประกาศใช้เมื่อ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ดังที่ปรากฏสู่สาธารณะทั่วไปหลายปีมาแล้ว ...
ประกาศใช้เมื่อ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ดังที่ปรากฏสู่สาธารณะทั่วไปหลายปีมาแล้ว ...

ซึ่งสมาคมฯ ได้ติดตามและสร้างสรรค์กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการสาขาใหม่หรือเทคโนโลยีควอนตัมนี้จากทั่วโลกมากว่ายี่สิบปีได้ร่วมศึกษาแล้วนำมาร่วมสรุป ณ​ โอกาสนี้ โดยเนื้อหาด้านในตัวรายงาน “ยุทธศาสตร์การวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research)” ฉบับดังกล่าว ปรากฏความน่าสนใจยวดยิ่งที่ประสงค์เชิญชวนให้ร่วมกันพิจารณาได้ใช้เวลาร่วมกันคิด วิเคราะห์ ลึก ลึก .. จากสรุปสั้น ๆ ต่อจากนี้ไป


ree

ทั้งจากผลลัพธ์ของการประชาสัมพันธ์แผนที่นำทางฉบับดังกล่าวอย่างเป็นทางการออกไปสู่สังคมทั่วไป ที่ได้ปรากฏเป็นต้นทางของข้อมูลและข่าวอย่างต่อเนื่องในสังคมไทยตามมาอีกมากมายหลายเวอร์ชัน ทั้งหมดนั้น ถูกจุดประกายมาจากรายงาน “ยุทธศาสตร์การวิจัยขั้นแนวหน้า” ฉบับทางการที่กำลังพิจารณากันอยู่นี้ นั่นเอง รวมทั้ง .. วลีและข้อความอันมาจากการแถลงข่าว ปาฐกถา การบรรยาย กิจกรรมวิชาการและการประชาสัมพันธ์มิติอื่นใดจากทั้งผู้บริหาร นักวิจัยนโยบาย ผู้กำกับดูแลงบประมาณ นักวิจัย บุคลากรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดได้กลายเป็นคำสำคัญ ประโยคข่าวเด่น เฉกเช่นวงการ การบ้านการเมือง หรือสาขาวิชาการอื่น ๆ 


พึงกล่าวได้ว่า ปรากฏการณ์ข่าวที่น่าตื่นตะลึงทั้งหลายเหล่านี้ ได้กลายเป็นบันทึกประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย เรียกได้ว่าเป็น “วาทกรรมประจำวงการ” ไปแล้ว นั่นเอง และเมื่อหน่วยงานรัฐภาคการประยุกต์ รวมทั้งภาคการศึกษาอื่น ๆ นำไปสื่อสารเผยแพร่ต่อ นักเรียนนักศึกษาอ้างอิงทำรายงาน สื่อมวลชนขยายข่าวต่อความ จึงเกิดเป็นปรากฏการณ์ข่าวสารอันน่าแปลกประหลาดใจในสังคมไทยตามมา ซึ่งทั้งหมดนี้ หากย้อนกลับไปดูบทเรียนของ โครงการที่สวยงามขนาดใหญ่ในอดีตดังที่กล่าวมาแล้ว บ่งชี้ได้ว่าหนึ่งในอุปสรรคสำคัญสำหรับการพัฒนาวิทยาการสาขาใหม่หรือร่วมสมัยที่เริ่มต้นขึ้นก็คือ เกิดช่องว่างที่กว้างใหญ่ขึ้นจาก “การสื่อสารวิทยาศาสตร์” ของภาครัฐไปสู่ภาคสังคมทั่วไป เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว



เนื่องจาก แม้เทคโนโลยีควอนตัมที่กำลังสนใจกันอยู่นี้ได้เริ่มเข้ามาพร้อมด้วยศักยภาพที่อาจจะเปลี่ยนแปลงสังคม (disturb) อย่างมีนัยสำคัญ ทว่า กลับพบสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างน่าวิตกร่วมอยู่มากมายด้วยเช่นกัน นั่นคือข่าวควอนตัมเกินจริงหรือข่าวเท็จนั่นเอง และยามใดที่สังคมไทยหยิบยกปรากฏการณ์ข่าวสำคัญ ประโยคข่าวเด่น ที่ปรากฏก่อนหน้าเหล่านี้กลับมาอ้างอิงใหม่ในอนาคต วาทกรรมคลุมเครือมากมายเหล่านั้นอาจถูกขนานนามว่าเป็น “Digital Footprint” ของวงการวิทยาศาสตร์ไทย ซึ่งเป็นเรื่องน่าวิตกยิ่งนัก!


จากข้อมูลเบื้องต้นที่ดูแปลกหูแปลกตาอันเกิดขึ้นในประเทศเหล่านี้ ควรได้ศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นคล้ายคลึงกันในต่างประเทศเพื่อการตรวจสอบเทียบเคียงข้อมูลข่าวสารด้วย ดังต่อไปนี้


“ข้อสังเกตต่อแผนที่นำทางทั่วไป”

จากพื้นฐานวิชาการและความเห็นโดยทั่วไป แผนยุทธศาสตร์ที่เที่ยงแท้ ควรมีองค์ประกอบสำคัญอย่างน้อย 3 ประการ นั่นคือ หนึ่ง-การวางแผนที่รอบด้าน สอง-การนำไปปฏิบัติที่ชัดเจน และสาม-สำคัญที่สุดคือการประเมินผลที่โปร่งใสและเป็นกลาง ซึ่งสามส่วนนี้ต้องเป็นวงจรที่ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ยุทธศาสตร์สามารถเป็นเครื่องมือที่มีชีวิตที่นำมาใช้เป็นแนวทางและสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ตลอดเวลา


สำหรับแผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทยนั้น จากการศึกษาประวัติ ที่มา ผู้เกี่ยวข้อง และอื่น ๆ นับว่าเป็นการเริ่มต้นสร้างแผนที่มีจุดเริ่มต้นที่ดีมากเช่นเดียวกับโครงการอื่น ๆ ใน อดีต และจะดียิ่งขึ้น ..​หากสามารถสร้างให้เกิดกระบวนการที่เรียกว่า “รับฟังอย่างรอบด้าน" จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปพร้อมกันได้ด้วย เช่นการรับฟัง “ความเห็นสาธารณะ” หรือ public hearing ที่มีต่อตัวเนื้อหารายงาน การรับฟังข่าวสารที่สัมพันธ์กันอื่น ๆ อันปรากฏอยู่โดยทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ



เมื่อผสมผสานกับข้อมูลที่ปรากฏสอดคล้องจากทั่วโลก ทั้งนโยบายและแผนที่นำทางที่เกี่ยวข้อง บทวิพากษ์ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญภาครัฐ อุตสาหกรรม ผู้กำกับดูแล (regulator) รวมทั้งจากผู้ตรวจประเมินอิสระ ที่มีต่อทั้งตัวนโยบาย แผนปฏิบัติการ รายงานผลวิจัย และข่าวสารอื่น ๆ ในสังคมแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “เทคโนโลยีควอนตัม” กำลังแสดงตนถึงศักยภาพที่สูงยิ่งนี้ มาพร้อมกับวาทกรรมที่พิลึกพิลั่นอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน โดยกล่าวได้ว่าอุปสรรคหลัก ณ​ ปัจจุบันที่เด่นชัดของวงการ “เทคโนโลยีควอนตัม” ทั่วโลกก็คือ การสื่อสารวิทยาศาสตร์ด้วย “ภาพลักษณ์เกินจริง (hype)” นั่นเอง


จากข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้ มีข้อสังเกตสำคัญที่ดีประการหนึ่ง คือ ในหลายประเทศ ปรากฏมีหน่วยงานผู้ตรวจการอิสระจากการบริหารของภาครัฐ ได้ทยอยออกรายงานเทคโนโลยีควอนตัมที่เสนอข้อมูลครบหรือพร้อมกันทั้งสองด้าน ทั้งด้านที่เป็นศักยภาพสูงยิ่งรวมถึงด้านที่เป็นเงื่อนไขที่พัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์ยังคงไปไม่ถึง ยังไม่สามารถอ้างได้ว่าเมื่อใช้งบประมาณภาครัฐไปแล้วจะเกิดประโยชน์ได้จริง รายงานที่เพียบพร้อมไปด้วยข้อมูลอ้างอิง การวิเคราะห์ผล และระบุเงื่อนไขสำคัญอย่างชัดเจนเหล่านั้น ได้รับการเผยแพร่ให้สังคมทั่วไปได้รับทราบ เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ใช้เป็นแนวทางตรวจสอบการใช้งบประมาณของหน่วยงานรัฐผู้จัดทำโครงการควอนตัมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูงสุด และนั่นจึงเป็นวิถีทางตัวอย่างที่ดีเยี่ยมที่ควรปักหมุดไว้พิจารณากันต่อไป



“ความเห็นและข้อเสนอแนะ”

ย้อนกลับมายัง “แผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย พ.ศ.2563 – 2572” แกนหลักของเรื่องราว ดังนี้


จากพื้นฐานวิชาการ ข้อมูล และความเห็นโดยทั่วไป มีประโยคที่น่าสนใจสอดคล้องกันที่ว่า 

“... การสื่อสารวิทยาศาสตร์ที่ดีไม่เพียงแต่ต้องทำให้เรื่องซับซ้อนเข้าใจง่าย แต่ยังรวมถึงการสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ ซึ่งต้องอาศัยทั้งข้อมูลที่ถูกต้องและจริยธรรมที่เข้มแข็งของผู้สื่อนำสารออกไปสู่สังคมด้วย”

ประกอบกับ “ความเห็นและข้อมูลสาธารณะ” ดังที่นำเสนอปักหมุดไว้ให้พิจารณามาแล้วนั้น ทั้งหมดได้นำมาสู่การจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะการปรับปรุง แก้ไขยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนงานนี้ โดย สาขาไอทีควอนตัม สมาคม IEEE Thailand section ประเทศไทย ตั้งชื่อแคมเปญรณรงค์นี้ว่า 


ree

“1,500 วัน สานฝันควอนตัมไทย”

โดยก่อนหน้านี้ สมาคมฯ ได้ระดมกำลังจัดทำโครงการสื่อสารวิทยาศาสตร์ที่หลากหลาย โดยหวังว่าจะช่วยให้เจือจางปรากฏการณ์ “วาทกรรมควอนตัม” ของเมืองไทยดังที่ได้เกิดขึ้นอย่างมากมายมาตั้งแต่ก่อนช่วง COVID 19 ให้กลับเข้าสู่ความสมดุลย์ รวมทั้งได้จัดส่งข้อมูลข่าวสารไปยังบุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับหนึ่งด้วยแล้ว เช่น ทั้งการจัดทำสื่อ หนังสือ สัมนา นิทรรศการ การสัมภาษณ์ พร้อมขอรับข้อคิดเห็นจากอดีตผู้บริหารวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้ที่ผ่านกาลเวลา ผู้มีประสบการณ์กับอดีตครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา อันเป็นผู้ที่ได้พบเห็นการเริ่ม มี ตั้งอยู่ และดับไปของโครงการใหญ่ในอดีต โดยเชิญมาร่วมกันแบ่งปันข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ แล้วเผยแพร่สู่สาธารณะ ซึ่งผลที่ได้ส่วนหนึ่งปรากฏความเห็นที่สอดคล้องใกล้เคียงกันกับกรณี “การสื่อสารวิทยาศาสตร์” สู่สังคมด้วยวาทกรรมควอนตัมสุดลึกล้ำต่าง ๆ ดังที่ได้กลายมาเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งควรต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขอย่างเร่งด่วน



เนื่องจากการ “เป็นเหตุและเป็นผล” คือหลักการสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์ ดังนั้น การสื่อสารวิทยาศาสตร์จึงควรต่างจากเพียงการเป็นแค่ “เทคนิคการประชาสัมพันธ์” เพราะการกล่าวอ้างวาทกรรมโดด ๆ ถึงศักยภาพที่สูงยิ่งเพียงด้านเดียว อาจกลายเป็น “Digital Footprint” หรือผลลัพธ์ย้อนทางกลับมาสลายโอกาสตนเองในอนาคตได้อย่างน่าวิตก ขณะที่สังคมผู้เสียภาษีทั่วไปได้รับเพียงข้อมูลจากการสื่อสารที่เกินจริงหรือเทียมนั้น จนอาจเกิดความเข้าใจผิดพลาดได้โดยง่ายจากข้อมูลด้านเดียวเหล่านั้นอีกด้วย



ดังนั้น จากหลักการ “การสื่อสารวิทยาศาสตร์” หรือ science communication ข้างต้น การสื่อสารเรื่องราวของแผนที่นำทางฯ ที่กำลังพิจารณาอยู่นี้ จึงควรเน้นให้สังคมทั่วไปเข้าถึงได้ สามารถร่วมตรวจสอบได้ ซึ่งก็จะได้รับผลที่ดีกลับมากับการช่วยเหลือขัดเกลาจากสังคมด้วยเช่นกัน แต่กระนั้นก็ตาม หากวาทกรรมอันเป็น “Digital Footprint” เช่นที่เกิดขึ้นแล้วเหล่านั้นยังคงปรากฏโดดเด่น เพิ่มพร้อมมาด้วยวาทกรรมกลายพันธุ์จากบุคลากรรุ่นใหม่ด้วยพฤติกรรมเลียนแบบตามอย่างบุคลากรรุ่นก่อน ๆ หน้า โดยยังไม่สัมฤทธิ์ผลกับการสื่อสารวิทยาศาสตร์ต่อคำว่า “ควอนตัม” สู่สังคมไทยได้แล้ว



นั่น ! จะเท่ากับว่า ขบวนรถของการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทยได้ตกลงไปในหลุมพรางที่ขุดขึ้นกันไว้เสียเอง เป็นการ “ติดกับดักภาพลักษณ์” ที่มักตบแต่งสร้างไว้ยามเริ่มโครงการ และกลายเป็นวาทกรรมที่คนรุ่นหลังทำตามอย่างซ้ำรอยไปกับประวัติศาสตร์โครงการวิทยาศาสตร์ไทยด้านที่อยากลืมของตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา


ดังนั้น ความเห็นและข้อเสนอแนะสุดท้ายต่อการปรับปรุง แก้ไขยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนงานใน ‘แผนที่นำทางการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของประเทศไทย’ ที่ใช้นำทางผ่านมาสู่ปีที่หกหรือเกินครึ่งทางแล้วนี้ และก่อนที่จะหมดอายุลงในเวลาอีก “1,500 วัน” ข้างหน้า และก่อนจะกลายเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ร่วมสมัยที่ไม่อยากจำซ้ำเดิม คือ


“ขอชวนให้เปิดเวทีรับฟังทุกฝ่าย สานทุกสาขาเข้าด้วยกัน สื่อสารวิทยาศาสตร์พร้อม ๆ กัน เพิ่มพลังบุคลากรทุกระดับให้มีส่วนร่วมเชิงลึกมากขึ้น และชวนผู้ตรวจการนานาชาติที่มีประสบการณ์มาช่วยกันวางแผนออกแบบการเดินทาง โดยทุกฝ่ายทุกคนควรได้ยอมรับ “สิ่งที่อาจเกิดความผิดพลาด” ที่เกิดขึ้นแล้ว และมาร่วมกันหาทางปรับปรุงแก้ไขด้วยความตระหนัก” โดยเฉพาะ การเปิดโอกาสให้สาธารณชนผู้รู้จากทุกสาขา เช่น ชีววิทยา ธรณีวิทยา สัตวแพทย์ ธนาคาร คมนาคมขนส่ง กสทช. อุตสาหกรรม หรือภาคประชาสังคมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการถูกอ้างเพื่อการประยุกต์ด้วยศักยภาพที่สูงล้ำของแผนที่นำทางควอนตัมเหล่านั้น ได้มาร่วมสะท้อนความเห็น อันอาจขยายให้รวมไปถึงสหสาขาอื่น ๆ ทั้งมนุษยศาสตร์สื่อสารมวลชน รวมถึงประวัติศาสตร์ได้ด้วยในภายหลังนั้น ควรได้ช่วยให้เส้นทางการเดินทางไปบนแผนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและได้รับการสนับสนุนจากสังคมตลอดเส้นทางด้วย


สรุป “ควรเปิดการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและชวนผู้ตรวจการนานาชาติมาร่วมออกแบบการเดินทาง เพื่อให้แผนที่นี้บรรจุเส้นทางสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนได้ ลดความเสี่ยงจากภาพลวงตาเกินจริงอันหวังผลระยะสั้นต่องบประมาณหรือภาพลักษณ์ที่มาพร้อมกับความใหม่ของตัววิทยาการลง”


“ไทยควอนตัมสำนึกชอบ”

ก่อนหน้านี้ สมาคมฯ ได้ร่วมรณรงค์ต่อแนวทางข้อเสนอดังกล่าวด้วยการเผยแพร่ประโยคสั้น ๆ ที่ว่า “เรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพื่ออนาคตที่ผิดพลาดน้อยลง” โดยหยิบยกมาเป็นแคมเปญรณรงค์ตลอดปีสากลแห่งวิทยาการควอนตัม หรือ International Year of. Quantum Science and Technology 2025 นี้ และต่อมาได้เพิ่มอีกหนึ่งคำสำคัญที่ว่า “ไทยควอนตัมสำนึกชอบ”อันหมายถึงการตระหนักใน “จริยธรรม และธรรมาภิบาล” โดยระมัดระวังต่อ “ผลประโยชน์ทับซ้อน” ทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่ระดับนโยบายและผู้เกี่ยวข้องควรยึดถืออย่างปฏิบัติเคร่งครัดเช่นเดียวกับแวดวงสังคมอื่น ๆ ที่กำลังประสบปัญหาคล้ายคลึงกันอยู่นั่นเอง


บทส่งท้าย

“แม้เดินช้า แต่ว่าไม่ควรถอยหลัง”

ท้ายที่สุด ของฝากจากผลการศึกษาประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นตลอดกว่าสี่สิบปีที่ผ่านมา ผสานความเห็นจากผู้หลักผู้ใหญ่วงการวิทยาศาสตร์ไทย จึงมีแด่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับแผนที่นำทางควอนตัมฯ ไทย ดังนี้


สำหรับผู้บริหาร นักวิจัยนโยบายและฝ่ายผู้สนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ขอเชิญชวนให้เปิดเผยสื่อสารข้อมูลครบทุกด้านให้ชัดเจนและติดตามความก้าวหน้าอย่างทันท่วงที พร้อมศึกษาและใช้บทเรียนบนเหรียญทั้งสองด้านจากอดีตกว่าสี่สิบปีของวงการมาปรับใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยลดช่องว่างด้วยการยึดโยงไปกับภาคสังคม


ree

และสำหรับนักวิจัยรุ่นใหม่ ขอเชิญชวนสร้างสายใยร่วมเรียนรู้ข้ามสาขา ศึกษาความสำเร็จในอดีตพร้อมไปกับประวัติศาสตร์ที่เคยพลาดพลั้ง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เทคโนโลยีควอนตัมคืออนาคตเส้นทางใหม่ที่บุคลากรทุกวัยควรก้าวไปด้วยกัน บนเส้นทางเดียวกัน ซึ่งแผนที่สร้างงานฉบับนี้มีรากฐานความตั้งใจที่งดงาม จึงขอชวนให้ทุกฝ่ายร่วมกันปรับปรุงแก้ไขหรือแสวงหาแนวทางใหม่อื่น ๆ และขอเชิญชวนทุกท่านร่วมตระหนัก

ด้วยกัน เพื่ออนาคตที่จะภาคภูมิใจได้ร่วมกัน


การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องง่าย ย่อมมีทั้งความล้มเหลวและความท้าทาย โดยเชื่อมั่นว่าหากทุกฝ่ายยอมรับความจริง ตั้งคำถามอย่างมีเหตุผล และร่วมมือกันอย่างจริงใจ จะสามารถนำพาประเทศไทยก้าวข้าวกับดักวาทกรรมไปสู่อนาคตที่ใช้ประโยชน์จากวิทยาการควอนตัมได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ไม่ซ้ำรอยเหตุเดิมในประวัติศาสตร์


ทั้งหมดนี้ คือความเห็นและข้อเสนอแนะการปรับปรุง แก้ไขยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนงานใน ‘แผนที่นำทางควอนตัมฯ’ แผนที่นำทิศทางของไทยไปสู่เส้นทางที่ทุกคนภาคภูมิใจร่วมกัน นับจากวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ยังมีเวลาอีก “1,500 วัน เพื่อสานฝันควอนตัมไทย”  -- |

ree

ree

โครงการหนึ่งร้อยปีควอนตัมโลก ครึ่งศตวรรษควอนตัมไทย

100th World & 50th Thai Quantum S&T Anniversary

(เวปหลักโครงการ - Officiall Web)

(รายละเอียดและกิจกรรม - Updated activities)

ree

The Sesquicentennial of Thai Telecommunications

(เวปหลักโครงการ - Main Web)

(รายละเอียดและกิจกรรม - Updated activities)


"เรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพื่ออนาคตที่ผิดพลาดน้อยลง

IEEE ComSoc Oral History -- สนับสนุนโดย 

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) 

หน่วยงานหลัก (Organizer)
ree

และภาควิชาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


หมายเหตุ:

ร่วมเสนอแนะ สนับสนุน ประสานกิจกรรมได้ที่

Alliance:


Disclaimer:

#ThaiTelecom150 & IYQ #ThaiYQ2025 - a public serving project by volunteers 

no conflict of interest & none of personal agenda involved

 

Welcome volunteers !

ชุดคอลัมน์ 'เตือนใจควอนตัมไทย'

“เรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพื่ออนาคตที่ผิดพลาดน้อยลง”

ความคิดเห็น


FEATURED POSTS

FOLLOW US

  • Facebook Long Shadow

 

DROP US A LINE 

Your details were sent successfully!

  • Facebook page

Disclaimer: Science Web  (ดำเนินงานโดยอาสาสมัครเพื่อสาธารณะ) -- We are all volunteers !

เวปวิชาการนี้เป็นศูนย์รวมกิจกรรมไอทีสาขาใหม่บนพื้นฐานวิชาฟิสิกส์แขนงกลศาสตร์ควอนตัม (Quantum Mechanics)

มิได้เกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ ความเชื่อ และการสร้างภาพลักษณ์ซ้อนเร้นบุคคลหรือองค์กรใดที่นำชื่อควอนตัมไปใช้

อีกทั้งนโยบายควอนตัมเกินจริงและการพ่วงขายเทคโนโลยีไอทีควอนตัมที่ระบาดเข้าสู่ประเทศไทย [1] [2] 

หากเพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมอุดมปัญญาไทยด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

About Us - Contact: ++02 5647000  (อยู่ระหว่างรอหมายเลข สนง.ใหม่)   Email: thailand_chapter@comsoc.org  

UNESCO-IDL
OQC

Q-Ti - Q-Thai.org - Quantum-Thai.org
Thai Quantum Information Forum

since 2014 © copyright 

Thanks for submitting !

  • Facebook page
bottom of page